เมื่อวันที่ 7 ม.ค.58 พ.ต.ท.นพดล ปิ่นพงศ์พันธิ์ สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (สว.กก.4 บก.ปคบ.) นำกำลังร่วมฝ่ายทหาร โดยพล.ต.พุฒิเศรษฐ์ ภาคการ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.ทรงศักดิ์ สิมพะรักษ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ กกล.รส.จว.ชย. วางแผนเข้าล่อซื้อจับกุมคลินิก และสถาบันเสริมความงาม 2 แห่ง ที่เปิดบังหน้าในลักษณะรับทำแท้งเถื่อนให้กับกลุ่มวัยรุ่น ในพื้นที่กลางเมืองชัยภูมิมานานกว่า 7 ปีแล้ว หลังมีการร้องเรียน และสืบทราบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวจนแน่ชัด ซึ่งมีทั้งอดีตผู้ช่วยพยาบาล และเจ้าของสถาบันเสริมความงาม เป็นผู้รับทำแท้งเถื่อนบังหน้า จนสามารถบุกเข้าจับกุมได้ผู้ต้องหาได้ทั้ง 2 แห่งรวม 2 ราย
จุดแรกที่ คลินิกอุไร ที่เปิดเป็นอาคารคลินิกขายยาบังหน้าย่านกลางชุมชนสนามบิน เลขที่ 78/13 หมู่ 12 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เป็นของอดีตผู้ช่วยพยาบาล ชื่อนางอุไร มีเพียร อายุ 53 ปี ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างที่จะฉีดยาขับเลือดรับทำแท้งให้กับสายล่อซื้ออยู่ภายในร้านพอดี ในราคาที่คิดรับทำแท้งแต่ละครั้ง จะคิดราคาหากอายุครรภ์ 1 เดือนขึ้นไปจะขึ้นราคาเดือนละ 6,000 บาท ซึ่งสายล่อซื้อแจ้งว่าท้อง 2 เดือนแล้ว ทางคลินิกแห่งนี้จึงคิดราคา 12,000 บาท ก่อนที่จะรับเงินของกลางล่อซื้อที่ถูกถ่ายเอกสารตัวเลขธนบัตรไว้หมดแล้ว พร้อมยอมรับสารภาพว่าทำมานานแล้ว หลังเคยถูกจับติดคุก เพราะเคยเปิดทำแท้งเถื่อนในลักษณะดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2550 จนเคยถูกศาลสั่งจำคุกมาแล้ว 1 ปี และพ้นโทษออกมา เห็นมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากนิยมมาหา และพยายามติดต่อขอใช้บริการให้รับทำแท้งให้อีกจำนวนมาก จึงกลับมาเปิดอีกครั้ง กระทั่งถูกจับได้อีกครั้ง
รายที่สอง เป็นสถาบันเสริมความงามที่เปิดบังหน้า เป็นร้านรับเสริมสวยครบวงจร ลัดดาสปางาดำ เพื่อสุขภาพ เลขที่ 587 บริเวณสี่แยกหนองบ่อ ถนนหฤทัย กลางชุมชนหนองบ่อ อยู่ห่างโรงเรียนเทศบาล 4 เทศบาลเมืองชัยภูมิ เพียง 100 เมตร ซึ่งเป็นของนางเพชรงาม ชาติชัยภูมิ อายุ 50 ปี ถูกสายเข้าล่อซื้อในลักษณะเดียวกัน โดยผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับมาแล้วพร้อมกันกับรายแรก และถูกศาลสั่งจำคุกแล้ว 1 ปีด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังไม่เข็ดกลับมาเปิดอีก ทั้งในระบบเปิดบริการให้ลูกค้าวัยโจ๋ มีทั้งรับฉีดให้กลับไปคลอดเอง และทำแท้งให้เด็กคลอดออกมาบนห้องชั้น 2 ของร้าน และนำศพทารกไปจัดการหาที่ทิ้งทำลายให้ พร้อมทำพิธีทางไสยศาสตร์ตามความเชื่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าที่กลัวว่า ทำแท้งฆ่าลูกไปแล้ว จะถูกวิญญาณเด็ก หรือลูกที่ทำแท้งออกไป กลับมาหลอกรบกวน
ในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ บก.ปคบ.ได้รวบรวมพยานหลักฐานตั้งข้อหาดำเนินคดีใน 3 ข้อหาหลัก ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต (ทำแท้ง) ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งมอบตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้กับ พ.ต.ท.รัตนสุข คำวงษ์ รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ รับตัวไปดำเนินคดีต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น